กระบวนการผลิตหมวกแก๊ป
หมวกแก๊ปที่เรารู้จักกันทุกวันนี้เริ่มเป็นที่นิยมในช่วงยุค 80 โดยเป็นส่วนหนึ่งที่รวมอยู่ในชุดกีฬาเบสบอลอันประกอบไปด้วยเสื้อเชิ้ต, กางเกง, และหมวกแก๊ป โดยหมวกแก๊ปมีสามแบบคือหมวกแก๊ปของมหาวิทยาลัย, หมวกแก๊ปยี่ห้อ Boston, และหมวกแก๊ปที่ใช้ในกีฬาเบสบอล
หมวกแก๊ปทำจากผ้าคอตตอนหรือผ้าขนสัตว์และทำออกมาให้สวมพอดีกับศีรษะ ดีไซน์ของหมวกแก๊ปมีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยจากช่วงศตวรรษที่ 18 ทว่าในปัจจุบันนี้หมวกแก๊ปส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกใช้โดยนักกีฬาเบสบอลแล้ว และนี่คือเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ในการผลิตหมวกแก๊ป
ขั้นตอนแรกในการผลิตหมวกแก๊ปคือการตัดวัสดุ จะมีการตัดผ้าหลายชั้นพร้อมกันโดยใช้เครื่องมือตัดผ้าตามแพทเทิร์นรูปสามเหลี่ยมจำนวนหกหรือแปดชิ้น โดยจะได้ผ้าตามรูปทรงที่กำหนดไว้ซ้อนกันหลายชั้น
หมวกแก๊ปบางรุ่นจะมีซับตาข่ายด้านในเพื่อรองผ้าสองส่วนที่อยู่ด้านหน้าหมวก โดยจะมีการซับผ้าตาข่ายไว้ก่อนที่จะนำชิ้นส่วนหมวกมาเย็บติดกันเพื่อเสริมความแข็งแรงเมื่อต้องปักโลโก้ลงบนหมวก ส่วนด้านข้างของหมวกแก๊ปมักจะเป็นทรงสามเหลี่ยมยาวที่มีรูไว้สำหรับเจาะรูตาไก่เพื่อเพิ่มการระบายอากาศ
หากต้องมีการปักหมวก ผ้าส่วนหน้าของหมวกจะถูกส่งไปยังแผนกสำหรับปักผ้า เครื่องปักคอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่ปักโลโก้หรือข้อความลงบนส่วนด้านหน้าของหมวก
ผ้าที่ใช้ประกอบขึ้นรูปหมวกจะถูกส่งไปยังแผนกเย็บ ชิ้นส่วนของหมวกหกถึงแปดชิ้นจะถูกเย็บเข้าด้วยกันให้เป็นทรงหมวก โดยหมวกที่ไม่มีปีกด้านหน้าจะถูกเรียกว่า “บีนนี่” (Beanie)
บีนนี่เหล่านี้จะถูกส่งไปยังส่วนของการตกแต่งขอบหมวก ในขั้นตอนนี้จะมีการเย็บแถบผ้ากาวให้ติดกับตะเข็บเพื่อให้งานออกมาดูเรียบร้อย และป้องกันไม่ให้ตะเข็บหลุดลุ่ยเมื่อนำไปใช้งาน, โดนเหงื่อ, หรือผ่านการซัก
ปีกหน้าของหมวกจะประกอบขึ้นจากผ้าสองชิ้น โดยมีการเพิ่มวัสดุตรงกลางเพื่อให้ปีกหมวกมีความแข็งและอยู่ทรง โดยมักจะมีการเย็บปีกหมวกหลายครั้งเพื่อให้มีความแข็งแรงและความทนทานเพียงพอ
ผู้ผลิตหมวกแก๊ปขายส่งบางรายจะมีการใส่วัสดุบางอย่างลงไปในปีกหมวกเพื่อให้มีความโค้งงอ ส่วนผู้ผลิตบางรายจะมีการผลิตหมวกแก๊ปที่สามารถใส่ได้ทุกคน โดยจะมีการเพิ่มสายรัดที่สามารถปรับได้ไว้กับหมวกด้วย
ขั้นตอนสุดท้ายคือการเพิ่มแถบคาดศีรษะโดยเย็บติดไว้ด้านในของหมวก ซึ่งขั้นตอนนี้มักจะทำโดยเครื่องเย็บที่ใช้ในอุตสาหกรรม บางครั้งอาจมีการเพิ่มผ้ากาว (ผ้าที่มีความหนาและแข็ง) ไว้ใต้ผ้าคาดศีรษะ เช่น ผ้าคอตตอนที่มีราคาไม่แพงหรือหนังที่มีความนุ่ม จากนั้นจึงจะมีการเพิ่มฉลากสินค้า
ในบทความนี้เราก็ได้ทราบถึงกระบวนการผลิตหมวกแก๊ปอย่างคร่าว ๆ และ แต่หากคุณกำลังมองหาผู้ผลิตยูนิฟอร์มพนักงานหรือผลิตหมวกแก๊ปขายส่งคุณสามารถสอบถามหรือติดต่อเราได้
แหล่งที่มา
https://acmehatco.com/how-baseball-caps-are-made
http://www.madehow.com/Volume-4/Baseball-Cap.html
http://www.digiactive.org/the-process-behind-how-baseball-caps-are-made
ชุดทำงานประเภทต่างๆสำหรับงานต่างๆ
องค์กรหลายแห่งลงทุนซื้อชุดทำงานสำหรับพนักงาน ตามความเชื่อที่ว่าการให้ลูกจ้างสวมใส่ชุดทำงานที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความมีประสิทธิภาพในการทำงาน และจะช่วยส่งเสริมสภาวะการทำงานที่ปลอดภัย ชุดทำงานแต่ละประเภทก็ผลิตออกมาไม่เหมือนกัน มันมีชุดทำงานหลากหลายแบบ เช่นเสื้อทำงานที่กันไฟ สีสด มองเห็นได้ง่ายและคลุมหมดทั้งตัว และที่สวมใส่ในสภาพอากาศชื้น ระหว่างที่หลายๆคนอาจจะคิดว่าชุดสบายๆก็เพียงพอแล้ว ในบางกรณีคนงานก็ต้องสวมใส่ชุดป้องกัน โดยเฉพาะในงานที่มีความเสี่ยงสูง
การแพทย์พยาบาล
สำหรับพยาบาลที่ทำงานในโรงพยาบาลนั้น ชุดเครื่องแบบจะต้องสะอาดสะอ้านและปลอดเชื้อ ดังนั้นชุดเครื่องแบบในธุรกิจประเภทนี้มักจะเป็นสีที่เหมาะสมกับการทำงานเช่นสีกรมท่าเป็นต้น แต่ธุรกิจนี้ก็ใช้สีขาวกันทั่วโลก และวัตถุดิบที่ใช้ทำชุดจะต้องทำความสะอาดได้ง่ายเนื่องจากสภาพแวดล้อมการทำงานนั้นทำให้ชุดเปื้อนได้ง่าย
อุตสาหกรรม
ชุดเครื่องแบบในโรงงานอุตสาหกรรมนั้นมักจะประกอบไปด้วยเสื้อแขนสั้นและแขนยาวกับกางเกงขายาว เสื้อทำงานเหล่านี้ทำจากเนื้อผ้าที่คงทน ใส่สบายและหนา บางชุดก็มีเทคโนโลยี Touchflex ซึ่งเป็นเนื้อผ้าที่ให้ความสบายในการสวมใส่และมีความคงทนใช้ได้เป็นระยะเวลานานรวมถึงการซักหลายๆครั้ง ชุดเครื่องแบบที่ควรจะเป็นนั้นจะสามารถใส่ได้ทั้งในไซต์ก่อสร้างและในโรงงานด้วย
เนื่องจากการทำงานก่อสร้างนั้นมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บมากมาย ชุดทำงานก็ควรจะมีความคงทน สามารถประสบกับสภาพการทำงานที่ท้าทายได้หลากหลาย อุตสาหกรรมก่อสร้างมักจะใส่เสื้อทีเชิ้ตแบรนด์หรือเชิ้ตที่ทำจากผ้าฝ้ายหนากับกางเกงยีน ซึ่งจริงๆแล้ว ก็คือแต่งตัวให้ดูเป็นมืออาชีพขึ้นอยู่กับสภาพการทำงานนั่นเอง
เครื่องยนต์
ช่างเครื่องยนต์จำเป็นจะต้องมีเสื้อผ้าที่คงทนใส่ สไตล์ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อติดกระดุมหรือเสื้อโปโล มีทั้งแขนสั้นและแขนยาว อีกทางหนึ่งก็คือแจ็คเก็ตและเสื้อคลุมก็นับรวมด้วย ทั้งหมดต้องทนมากพอที่จะเปื้อนน้ำมันและพวกของเหลวที่เปื้อนติดเป็นคราบได้
ออฟฟิศ
ตัวเลือกนี้รวมพวกชุดที่เหมาะแก่การทำงานในออฟฟิศ เป็นชุดสบายๆ แต่ก็ยังดูเป็นมืออาชีพและเหมาะสมกับอาชีพอยู่ สไตล์นี้จะรวมทั้งเสื้อเชิ้ตติดกระดุมแบบออกฟอร์ดทั้งแขนสั้นและแขนยาว เสื้อเดนิมและเสื้อโปโล แต่ละแบบก็จะมีป้ายเฉพาะติดกับเสื้อ ใส่สบายและเป็นมืออาชีพมากพอจะใส่ไปประชุมในออฟฟิศ
ร้านอาหาร
ชุดเครื่องแบบสำหรับทำงานในร้านอาหารนั้นมักจะไม่เหมือนใคร โค้ตของเชฟนั้นมักจะมี butcher wrap หรือเป็นแบบติดกระดุมง่ายๆ และพนักงานเสิร์ฟจะมีเสื้อเชิ้ตติดกระดุมแบบเรียบๆและผ้าสม็อก กางเกงมักจะมีสองแบบคือ black cook หรือ checked chef pants จะสั่งเครื่องประดับเช่นผ้ากันเปื้อนและโค้ตเท่ๆก็ได้ เนื้อผ้าต้องคงทนและไม่เปื้อนง่ายรวมถึงไม่หดตัว
แปรรูปอาหาร
ชุดเครื่องแบบสำหรับการทำงานในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารจะต้องสามารถทำความสะอาดได้ด้วยขั้นตอนพิเศษ ชุดเหล่านี้จะต้องมีความคงทนเป็นอย่างมากถึงจะผ่านขั้นตอนเหล่านั้นได้ ชุดเครื่องแบบประกอบไปด้วยโค้ตสม็อก กางเกงขายาวและเสื้อติดกระดุมแขนสั้นหรือแขนยาว อีกหนึ่งไอเดียคือเสื้อกาวน์สั้นที่สามารถเลือกปรับแต่งดีไซน์ได้
การบิน
เราจะสามารถบอกได้อย่างง่ายดายว่าใครเป็นนักบินและแอร์โฮสเตสจากชุดทำงานที่โดดเด่นและลุคเฉพาะตัว เนื้อผ้าสะอาดสะอ้าน น้ำหนักเบาและมีการปรับแต่งอย่างเป็นมืออาชีพนั้นเป็นลักษณะเด่นของอุตสาหกรรมนี้ ส่วนสีนั้นก็แล้วแต่สายการบิน
แหล่งที่มา
https://www.gina.co.za/types-uniforms-different-industries
https://www.prudentialuniforms.com/blog/what-are-the-different-types-of-work-wear
https://coalfaceworkwear.com.au/blog/different-types-of-work-clothing-for-different-jobs
เสื้อยืดแบบไหนที่ควรมีติดตู้เสื้อผ้าไว้
เสื้อยืดเรียบๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบสีสัน ขาว หรือดำ ต่างก็เป็นสิ่งที่ทุกคนมักจะมีติดตู้ไว้มานานแล้ว เพราะว่ามันเป็นการผสมผสานของความเรียบง่าย และความสบายได้อย่างลงตัว ดังนั้นเราจะมาพูดถึงเสื้อยืดที่เราคิดว่าคุณควรจะมีติดตู้เอาไว้
สีของเสื้อยืด
คงเป็นเรื่องแน่นอนที่สีดำจะเป็นสีที่ทุกๆคนควรจะมีติดไว้เสมอ เพราะมันสามารถใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์มาก ไม่ว่าจะกลางวันกลางคืน แบบใส่สบาย หรือแบบดูดี เพราะยังไงมันก็ดูคลาสสิกอยู่เสมอ
ต่อจากสีดำแล้ว สีที่ดูนุ่มลึกกว่า แต่ก็ยังเข้มพอที่จะทำให้ใส่กับอะไรได้หลากหลาย นั่นก็คือสีกรมนั้นก็เป็นทางเลือกที่ดีที่ควรมีติดเอาไว้ ลองสวมเสื้อยืดสีกรมคู่กับแจ๊คเก็ตสีอ่อนพร้อมกางเกงชิโน่ก็จะออกมาดูสุภาพแต่ก็ยังสบายๆอีกด้วย
สีเทาก็เป็นอีกสีที่ดูเรียบร้อยและเรียบง่ายที่จะทำให้คุณดูดีขึ้นได้ แต่ผู้ที่เหงื่อออกง่ายนั้นคงต้องระวังสักเล็กน้อยเพราะมันจะสามารถเห็นรอยเปียกได้ง่ายกว่าสีดำและสีขาวมาก
สุดท้ายนี้ ไม่มีอะไรที่จะสามารถสู้กับสุดยอดสีคลาสสิกอย่างสีขาวได้เพราะมันสามารถใส่ได้กับชุดหลากหลายรูปแบบ ลองใส่เสื้อแจ๊คเก็ตเดนิมสีนำเงินทับ คู่กับกางเกงยีนส์สีดำดู แล้วคุณจะได้ลุคที่ดูเรียบง่ายแต่ดูดีออกมาได้อย่างง่ายๆ
สไตล์เสื้อยืด
เสื้อยืดคอวีหรือคอลึกนั้น จะทำให้ผู้ชายที่มีคอสั้นหรือมีกล้ามนั้นดูดีขึ้นได้ในทันที โดยจะดีที่สุดถ้ามีเสื้อนอกมาทำให้เด่นอีกที
เสื้อยืดคอกลมนั้น เหมาะสำหรับคนที่มีรูปร่างสูงยาว และเหมาะสำหรับคนที่แต่งตัวแนวดูเรียบร้อยมากกว่า
การเลือกไซส์ให้ถูก
ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแบบไหน หากเลือกเสื้อยืดแบบที่เหมาะสมแล้ว สามารถเปลี่ยนจากสภาพเอื่อยๆ หรือรุงรัง ให้ดูดีราวกับผู้เชี่ยวชาญในด้านแฟชั่นได้ในพริบตา เสื้อยืดเรียบๆนั้นมีทั้งความยาวและแบบคอที่หลากหลาย ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมที่ออกมาได้อย่างมาก ดังนั้นการเลือกรูปแบบที่เหมาะสมนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก หากคุณจะซื้อเสื้อตัวใหม่ละก็ ลองนึกถึงรูปร่างโดยรวมของตัวเองก่อน และคิดว่าอยากให้เสื้อแสดงส่วนไหนของคุณให้ออกมาเด่นบ้าง
เสื้อยืดแบบพอดีตัวนั้นออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับสรีระของร่างกาย ทำให้เห็นรูปร่างได้ชัดเจน ในขณะที่แบบ สลิมฟิตนั้นจะเหมาะสำหรับไว้ใส่ใต้เสื้ออื่นๆอีกชั้น เสื้อยืดแบบตัวใหญ่หรือแบบรีแลกซ์นั้นจะทำให้รู้สึกสบายตัวมากก็จริง แต่มันไม่เหมือนกับการใส่เสื้อยืดทั่วไปที่ใหญ่กว่าตัวคุณสองสามไซส์ เพราะมันจะออกมาดูรุ่มร่ามในส่วนที่คุณไม่ต้องการนั่นเอง
สรุป
สีที่สามารถนำไปใช้ได้หลากหลายรูปแบบและเข้ากับหลากหลายสถานการณ์ได้แก่ สีดำ สีขาว สีกรม และสีเทา หากอยากจะให้ดูโดดเด่นขึ้น ก็ให้ลองหาเสื้อสีที่มีลายหรือเป็นสีแบบบล็อก รูปแบบคอเสื้อของเสื้อยืดนั้นมีหลากหลาย แต่รูปแบบที่สามารถเห็นได้ทั่วไปก็คือแบบคอกลม ซึ่งเป็นรูปแบบที่สามารถปรับใช้ได้หลากหลายเช่นกัน ในการดูแลรักษาเสื้อยืดนั้น ให้อ่านตามป้ายที่ผู้ผลิตมีมาให้เพื่อซักรีดอย่างถูกต้อง เพราะเสื้อยืดนั้นคือการบ่งบอกถึงความเรียบง่าย สะอาดตา ดังนั้นการเลือกเสื้อยืดสีคลาสสิกคุณภาพดีก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน
แหล่งที่มา
https://theidleman.com/blogs/style/best-mens-tshirts-how-to-wear
https://www.theadairgroup.com/blog/2018/03/16/why-plain-t-shirts-essential-wardrobe
เทรนด์สินค้าโปรโมทประเภทเครื่องแต่งกาย 4 รูปแบบที่กำลังมาแรง
แนวทางในการเลือกเสื้อโปโลสำหรับองค์กรของคุณ
3 ข้อหลักของผลิตภัณฑ์ส่งเสริมการขายในโลกธุรกิจ
สิ่งที่บ่งบอกถึงคุณภาพของเสื้อโปโล
เสื้อโปโลคุณภาพดีนั้นดูยังไง? แต่โชคดีคือ สิ่งที่แตกต่างของเสื้อโปโลที่มีคุณภาพสูงนั้นมีมากกว่าแค่การตลาดและการโฆษณา แต่ก็มีบางสิ่งที่คุณสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักเป็นตัวบ่งชี้ว่าเสื้อใช้เวลาในการผลิตนานแค่ไหนและจะช่วยให้คุณสามารถดูเสื้อโปโลที่มีคุณภาพที่จะให้คุณสวมใส่ได้เป็นเวลานาน
ปกเสื้อ
เสื้อโปโลส่วนใหญ่ในปัจจุบันมาพร้อมกับปกที่นิ่มและจะดูไม่ดีนักเมื่อมีการโค้งงอ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงขอแนะนำให้เลือกเสื้อเชิ๊ตที่มีเป็นปกแบบมีซับในเพราะจะสามารถคงรูปทรงไว้ได้ตลอดเวลา
คอเสื้อและกระดุม
แบบ Solly: พบได้ทั่วไปกับเสื้อโปโลที่ราคาไม่แพงมาก หรือเรียกอีกชื่อว่า ‘แบบซ่อน’ เนื่องจากคุณสามารถมองเห็นตะเข็บเดียวที่ด้านล่างเท่านั้น
แบบ Set-In: คล้ายกับแบบ Solly แต่ความแตกต่างก็คือแบบ Set-in นั้นใช้การเย็บมากกว่าในด้านที่มีรูกระดุมของคอเสื้อซึ่งทำให้มีรูปลักษณ์ที่ดูสง่างามมากขึ้น
แบบ Set-On: ใช้กับเสื้อโปโลที่มีราคาแแพง แบบ Set-on ใช้การปักเย็บและผ้าที่มากขึ้นเนื่องจากคอเสื้อมีการเย็บแยกคนละชิ้นส่วนกับเสื้อและนำมาติดทีหลัง ด้วยรูปลักษณ์ดูเหมือนซ่อนอยู่ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับลุคเนี้ยบๆ
กระดุมพลาสติกกับกระดุมไข่มุข
สำหรับลุคแบบคลาสสิก ปกติแล้วจะมีกระดุมประมาณ 2 ถึง 3 เม็ด เสื้อโปโลที่มีราคาแพงควรจะมีกระดุมแบบไข่มุขแท้สำหรับความลึกของสีและความเงางาม ในขณะที่เสื้อราคาที่ต่ำลงจะเป็นกระดุมแบบพลาสติก
รูกระดุม
บ่อยครั้งที่ผู้ผลิตมักจะมองข้ามรูกระดุมและเย็บก่อนที่จะมีการตัด ทำให้มีด้ายหลุดลุ่ยซึ่งเป็นภาพที่ไม่ค่อยน่าดูนัก โดยรูกระดุมนั้นจะต้องมีการตัดก่อนและเย็บทีหลัง ในขณะที่เสื้อชั้นสูงของอิตาลีมักมีจะมีรูกระดุมแบบเย็บมือ ส่วนเสื้อโปโลมักจะมีรูกระดุมที่เย็บด้วยเครื่องจักรแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาถ้าหากเสื้อดูดี
แขนเสื้อ
รูปแบบของแขนเสื้อที่พบมากที่สุดคือแขนเสื้อแบบ Set-in แต่เสื้อที่มีราคาแพงส่วนมากจะใช้แขนเสื้อแบบ raglan ซึ่งให้การเคลื่อนไหวที่ดีขึ้น แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับความยืดหยุ่นของวัสดุที่ใช้ คุณควรลองสวมใส่เสื้อโปโลก่อนตัดสินใจซื้อ
หาตะเข็บไหล่แบบยึด
เพื่อการใช้งานที่ยาวนาน สิ่งหนึ่งที่ควรมองหาในเสื้อโปโลคือตะเข็บไหล่แบบยึด นี้สามารถแยกความแตกต่างได้โดยมองไปที่ด้านในของเสื้อบนตะเข็บที่คุณจะพบชิ้นส่วนสีขาวของผ้าเย็บเข้าที่ไหล่ นี่คือสิ่งที่ใช้เพื่อรักษารูปร่างของเสื้อจากการสึกหรอและจาากการซักจำนวนมาก
เลือกใช้เข็มเย็บเดี่ยว
พยายามเลือกเสื้อโปโลที่มีการเย็บเข็มเดี่ยวที่บ่าและการเสริมที่ช่วยให้เสื้อมีรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์และสวยงามยิ่งขึ้น การเย็บแบบทางเดียวที่คอเสื้อและกระดุมเป็นการแต่งเติมเล็กน้อยที่สามารถปรับปรุงคุณภาพของเสื้อได้
แหล่งที่มา :https://propercloth.com/reference/high-quality-dress-shirt
มารยาทการใส่เสื้อโปโล : สิ่งที่ควรและไม่ควรทำ
ขณะที่อุณหภูมินั้นเพิ่มขึ้นนั้น ผู้ที่ใส่เสื้อแขนสั้นและโชว์กล้ามก็จะออกมาเพิ่มขึ้นเช่นกัน เราอยากกระตุ้นให้หลายคนสำรวจอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับเสื้อที่แข็งแรงเสื้อยืดทั่วไป นั่นก็คือเสื้อที่เราเรียกกันว่าเสื้อโปโล เสื้อโปโลนั้นเมื่อใส่อย่างถูกต้องแล้วจะเป็นการแต่งตัวที่เรียบง่ายและดูดีมาก แต่หากแต่งผิดแล้วมันอาจทำให้คุณดูอัปลักษณ์ไปเลยก็เป็นได้ นี่คือสิ่งที่คุณควรรู้เมื่อออกไปซื้อเสื้อโปโลและสวมใส่มัน
1.อย่าใส่เสื้อใน
เสื้อโปโลที่เข้ารูปที่ดีจะต้องฟิตแต่ไม่แน่นเกินไปและต้องยาวพอดีในทุกๆที่ ดังนั้นหากเราใส่เสื้อข้างในซ้อนแล้วมันจะมีโอกาสูงมากที่มันจะยืดออกมานอกแขนเสื้อหรือโผล่ออกมาเหนือคอเสื้อ เสื้อโปโลไม่ได้สร้างมาสำหรับใส่พร้อมเสื้อใน และไม่ควรที่จะใส่ด้วยกันเด็ดขาด คุณควรใช้สเปรย์ดับกลิ่นมากขึ้นไม่ก็นำเสื้อไปเปลี่ยนเพิ่มตัวหนึ่งแทน
2.ใส่ให้ฟิตแต่ไม่แน่น
ถ้าคุณไม่สามารถเอานิ้วเข้าระหว่างแขนคุณกับแขนเสื้อได้นั้น ให้หาขนาดที่ใหญ่ขึ้น ถ้าเสื้อหย่อนเยอะหลายจุดแล้วก็ควรหาขนาดที่เล็กลง เสื้อโปโลที่มีคุณภาพดีสร้างขึ้นมาจากวัสดุเช่นฝ้าย ดังนั้นเสื้อควรจะสวมตัวพอดีไม่เปิดเกินไป
3.เลือกขนาดให้ตรงกับสวนสูง
ยกเว้นเสียว่าคุณมีใจชอบที่จะใส่เดรส คุณควรดูไม่ให้หางเสื้อยาวเกินครึ่งหนึ่งของก้นคุณ หากยาวเกินแล้วถ้าใส่เสื้อเข้าในกางเกงมันจะดูยุ่ยมาก และหากนำเสื้อออกนอกกางเกงก็จะดูจืดชืดมากเช่นกัน อีกอย่างถ้าหากคุณต้องการใส่เสื้อนอกกางเกงคุณควรพยายามหลีกเลี่ยงเสื้อที่มีหางเทนนิส
4.อย่าดึงปกเสื้อขึ้น คุณไม่ได้อายุ 12
สมัยนิยมแห่งการดึงปกเสื้อขึ้นนั้นได้จบลงไปแล้วและก็จะไม่กลับมาอีก นอกเสียว่าคุณดึงขึ้นเพื่อป้องกันคอคุณจากแดดแล้วคุณเก็บมันพับไว้จะดีกว่า หากคุณพับไว้และทาครีมกันแดดแต่แรกคุณก็ไม่จำเป็นต้องดึงมันขึ้นเช่นกัน ดึงคอเสื้อขึ้นก็เหมือนกับการใส่แว่นกันแดดในตอนกลางคืน ปล่อยให้พวกผู้คนในบาร์หรือเด็กวัยรุ่นที่พยายามดูเท่ห์ทำกันดีกว่า
5.หลีกเลี่ยงโลโก้ใหญ่
พักหลังมานี้มีสมัยนิยมใหม่ขึ้นมาซึ่งคือการใส่เสื้อที่มีโลโก้ใหญ่เกินขนาดบนเสื้อโปโล สิ่งนี้เริ่มขึ้นที่ราล์ฟลอเรนซ์และกำลังลามไปถึงแบรนด์อื่นๆเช่นกัน ปกติแล้วที่เจ็นเทิลแมนซ์ กาเซ็ท พวกเราพยายามสนับสนุนการหลีกเลี่ยงโลโก้ที่เห็นได้ชัดอย่างเต็มที่ แต่เมื่อพูดถึงเสื้อโปโลแล้วการมีโลโก้เล็กที่หน้าอกก็จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะมันเป็นมาตรฐานไปแล้ว บางบริษัทก็เสนอโลโก้ที่มีโทนสีเดียวกับเสื้อซึ่งดีกว่าโลโก้ที่ตัดกับสีเสื้อ อย่างไรก็ตามโลโก้ที่ใหญ่เกินขนาดก็ไม่ต่างจากสิ่งที่ป่าเถื่อนมากๆนั่นเอง ยกเว้นเสียว่าคุณต้องใส่เป็นชุดทำงานแล้วคุณควรปล่อยโลโก้ใหญ่ๆให้เด็กๆใส่เสียดีกว่า
6.ใส่เสื้อในกางเกงหรือปล่อยออกขึ้นอยู่กับสถานการ
มันจะผิดแน่ถ้าเราจะกำหนดไปเลยว่าต้องใส่หรือห้ามใส่เสื้อเข้าในกางเกง แต่จริงๆแล้วทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับชุดและสถานการ หากใส่คู่กับกางเกงผ้าฝ้ายขาสั้นคุณก็ไม่ควรใส่เสื้อเข้าไป แต่หากใส่คู่กับกางเกงผ้าย่น กางเกงสแล็ก หรือกางเกงชิโน่แล้ว นำเสื้อใส่ในกางเกงจะดูดีกว่า
แหล่งที่มา : https://www.gq.com/story/polo-shirt-how-to-wear
https://www.gentlemansgazette.com/polo-shirt-guide/#etiquette
ประโยชน์ของการมีชุดยูนิฟอร์มใส่ในบริษัท
หากคุณกำลังวางแผนที่จะตัดชุดทำงานสำหรับพนักงานอยู่ คุณควรเลือกให้เป็นแบบคอกลม นั่นก็เพื่อเป็นการสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ของคุณ และไม่ทำให้พนักงานทุกคนแต่งตัวจัดจ้านมากจนเกินไปยิ่งไปกว่านั้นการมีเสื้อที่เป็นแบบเฉพาะของแบรนด์ตัวเอง ยังถือเป็นการโปรโมทไปในตัวอีกด้วย และนี่คือ 7 วิธีที่เป็นสิ่งสนับสนุนให้พนักงานใส่เสื้อคอกลม
1. ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
สิ่งที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งนั้นก็คือ การออกแบบเสื้อคอกลมให้กับพนักงานของคุณ ให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเป็นการตอกย้ำเจตนารมณ์ว่าเขาเหล่านั้น มีเป้าหมายในการทำงานไปในทางเดียวกัน
2. เป็นหน้าเป็นตาให้กับบริษัท
การที่ให้พนักงานของคุณใส่เสื้อยืดโปโลที่มีสัญลักษณ์บริษัทอยู่นั้น ถือเป็นการบ่งบอกความเป็นตัวตนให้กับบริษัทนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณไปเปิดบูธ หรือไปออกตามงานสัมมนาต่างๆ สิ่งที่จะทำให้ผู้คนจดจำบริษัทของคุณได้ นั่นก็คือ สัญลักษณ์ที่อยู่บนเสื้อนั่นเอง นอกจากนี้แล้ว หากพนักงานของคุณประพฤติตัวดี ก็จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณได้
3. มีความเป็นเอกลักษณ์
เพื่อให้แน่ใจว่า ลูกค้าจะจดจำสัญลักษณ์ของแบรนด์ของคุณไปได้ตลอด คุณควรออกแบบเสื้อยืดโปโลให้มีความเป็นเอกลักษณ์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ และดูมีความเป็นมืออาชีพ
4. บ่งบอกตัวตน
การใส่เสื้อยืดโปโลคอกลม จัดเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้พนักงาน และธุรกิจของคุณดูมีความเป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น จากการใส่ชุดยูนิฟอร์มที่เหมือนๆกัน เพื่อเป็นการบ่งบอกความเป็นตัวตนให้กับบริษัทของคุณได้เป็นอย่างดี
5. บ่งบอกวัฒนธรรม
การใส่เสื้อยืดคอกลมถือเป็นการบ่งบอก ธรรมเนียมหรือวัฒนธรรมภายในบริษัทของคุณ คุณสามารถออกแบบเสื้อยืดให้ตรงตามอุดมการณ์และเป้าหมายของบริษัทของคุณได้ เพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่า ธรรมเนียมและวัฒนธรรมของบริษัทนั้นเป็นอย่างไร
6. การทำงานร่วมกัน
การที่ให้พนักงานใส่เสื้อยืดโปโลเหมือนๆกันนั้น เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแสดงให้เห็นว่า พนักงานทุกคนภายในบริษัท ช่วยกันทำงาน และยังเป็นการสร้างบรรยากาศภายในบริษัท ให้เอื้อต่อการทำงานร่วมกันอีกด้วย
7. การแสดงออก
การที่มีคนใส่เสื้อยืดโปโลเหมือนกัน เดินอยู่ทั่วบริษัทนั้น เป็นการแสดงออกถึงอัตลักษณ์ของบริษัทได้ โดยสามารถดูได้จากเนื้อผ้า และความสดของเสื้อผ้าที่พนักงานใส่
การที่คุณให้พนักงานของคุณใส่เสื้อยืดโปโล ที่เป็นแบบเฉพาะของบริษัทอาจดูได้จาดสี หรือสัญลักษณ์ที่ปริ้นสกรีนอยู่ทางด้านหลัง เสื้อ เป็นการบอกให้ทราบถึงคุณภาพของสินค้าในบริษัทว่ามีคุณภาพดีแค่ไหน
แหล่งที่มา : https://www.linkedin.com/pulse/benefits-shirt-printing-uniforms-branded-polo-shirts-ziwa
http://www.sharprint.com/blog/bid/86746/7-Advantages-of-Embroidered-Polo-Shirts-For-Your-Employees